วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

กฎ-กติกา และมารยาท ในการเล่นกีฬายิมนาสติก

ยิมนาสติก (Gymnastics)



           ยิมนาสติก (Gymnastics) เป็นกีฬาสากลประเภทหนึ่งที่จัดเข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เพื่อทดสอบความแข็งแรงของนักกีฬา  รวมทั้งจังหวะ ความยืดหยุ่นตัวหรือความอ่อนตัวและความคล่องแคล่วว่องไว กีฬายิมนาสติกที่ใช้ในการแข่งขันมี 3 แบบคือ ยิมนาสติกสากล ยิมนาสติกลีลาและแทรมโปลิน
กติกาการแข่งขันยิมนาสติก
           การแข่งขันจะแบ่งออกเป็นประเภทชายและประเภทหญิงแข่งขันกันโดยใช้อุปกรณ์ต่างๆกัน เช่น ม้ากระโดด ม้าหู บาร์เดี่ยว บาร์คู่ ห่วงนิ่งและฟลอร์ ผู้เข้าแข่งขันจะต้องแสดงภาคบังคับและท่าสมัครในอุปกรณ์แต่ละชนิดข้างต้น การแข่งขันแบ่งเป็นหลายประเภท เช่น ประเภททีม ประเภทเดี่ยวผสม และประเภทเดี่ยว
 
-          อุปกรณ์ชาย ห่วงนิ่ง บาร์คู่ ม้ากระโดด บาร์เดี่ยว ม้าหู
-          อุปกรณ์หญิง บาร์ต่างระดับ ราวทรงตัว ม้ากระโดด
           กรรมการ ประกอบด้วยกรรมการให้คะแนน 4 คน กรรมการผู้ชี้ขาด 1 คน ( ในการแข่งขันประเภทชายเดี่ยวรอบชิงชนะเลิศจะมีกรรมการชี้ขาด 2 คน )



           การให้คะแนน คะแนนของผู้เข้าแข่งขันคิดจากกรรมการทั้ง 4 คน โดยจะตัดคะแนนที่สูงสุดและต่ำสุดออก และนำคะแนนกลางจากกรรมการอีก 2 คน มาหาค่าเฉลี่ยเป็นคะแนนของผู้เข้าแข่งขัน คะแนนที่ได้จะมีตั้งแต่ 0 ถึง 10 คะแนน ซึ่งอาจจะถูกหักออกทั้งหมดครึ่งหนึ่ง หรือ 1/10 คะแนน ในการแข่งขันอุปกรณ์บางประเภทอาจมีการให้คะแนนการเริ่มเล่นเป็นคะแนนพิเศษ ( เนื่องจากเป็นท่าเสี่ยงอันตรายต้องใช้พลังกำลังและมีความคิดสร้างสรรค์) ซึ่งอาจทำให้ได้รับคะแนนเต็ม 10 คะแนนได้
           การแข่งขันประเภททีม แต่ละทีมจะมีผู้แข่งขัน 6 คน โดยผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะทำการแข่งขันทุกอุปกรณ์ด้วยท่าบังคับและท่าสมัคร แล้วนำคะแนนของผู้เข้าแข่งขันที่ได้คะแนนสูงสุดของทีม 5 คน มารวมกันเป็นคะแนนของทีม (คะแนนสูงสุดของชายคือ 600 คะแนน และหญิงคือ 400 คะแนน)
การแข่งขันประเภทบุคคลรวมอุปกรณ์ ผู้เข้าแข่งขันคัดจากผู้ได้คะแนนรวมทุกอุปกรณ์สูงสุดจากการแข่งขันประเภททีมจำนวน 3 คน มาแข่งขันรอบสุดท้ายด้วยท่าสมัคร คะแนนจากรอบนี้จะรวมกับครึ่งหนึ่งของคะแนนที่ทำได้จากการแข่งขันประเภททีมเป็นคะแนนรวมของแต่ละคน (คะแนนสูงสุดของชายคือ 120 และหญิง 80 คะแนน)
            การแข่งขันประเภทบุคคลแยกอุปกรณ์ ในการแข่งขันแต่ละอุปกรณ์จะมีผู้เข้าแข่งขัน 6 คน โดยคัดจากผู้ได้คะแนนสูงสุดในแต่ละอุปกรณ์จากการแข่งขันประเภททีมมาทำการแข่งขันในรอบสุดท้าย คะแนนที่ได้จากรอบนี้จะรวมกับครึ่งหนึ่งของคะแนนที่ทำได้ในอุปกรณ์นั้นๆ จากการแข่งขันประเภททีมเป็นคะแนนรวมแต่ละคน (คะแนนสูงสุดของทั้งชายและหญิงคือ 20 คะแนน)

กติกาและเกณฑ์การตัดสิกีฬายิมนาสติก



การให้คะแนนในการแข่งขัน  
-          คณะกรรมการผู้ตัดสิน ประกอบด้วย
1.       คณะลูกขุน  (ประเภทบุคคลและกลุ่ม แบ่งผู้ตัดสินออกเป็น 2 ฝ่าย)
                              กลุ่ม A คณะลูกขุนการประกอบท่าชุด (Composition) แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
กลุ่ม A1  ผู้ตัดสินฝ่ายเทคนิค (technical Value)  ทำหน้าที่ในการ ประเมินค่า      ทางเทคนิคที่เกี่ยวกับการประกอบท่าชุด (จำนวนและระดับของท่าความยาก) มีคะแนนสูงสุด 10 คะแนน
                                           กลุ่ม A2  ผู้ตัดสินฝ่ายศิลปะ (Artistic Value)  ทำหน้าที่ในการ  ประเมินองค์ประกอบทางศิลปะ องค์ประกอบทางเสียงดนตรี และการออกแบบท่าชุด (เลือกท่าสำหรับอุปกรณ์ เลือกท่าทางการเคลื่อนไหวร่างกาย การใช้อุปกรณ์ การใช้การเคลื่อนไหวร่างกาย ความชำนาญและความเป็นต้นแบบ) มีคะแนนสูงสุด 10 คะแนน (ดนตรี = 2.0 คะแนน, การออกแบบท่าชุด = 8.0 คะแนน)
                               กลุ่ม B คณะลูกขุนความสมบูรณ์ของท่า (Execution)  ทำหน้าที่ในการ ประเมินความสมบูรณ์ (ความผิดพลาดทางเทคนิค) มีคะแนนสูงสุด 10 คะแนน

การคิดคะแนน
          กติกาและเกณฑ์การตัดสินกีฬายิมนาสติก
แนวทางในการตัดสิน
           1. ระดับของความผิดพลาด
                    1. ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจะถูกตัดคะแนนตามระดับ ดังต่อไปนี้
                          - 0.05 หรือ 0.10 คะแนน สำหรับความผิดเล็กน้อย
                          - 0.20 คะแนน สำหรับความผิดปานกลาง
                          - 0.30 คะแนน สำหรับความผิดพลาดที่มาก
                    2.  การให้คะแนนและการคำนวณคะแนน
                          2.1 ผู้ตัดสินแต่ละคนจะให้คะแนนดังต่อไปนี้
                                      - การแข่งขันประเภทบุคคลและกลุ่ม
                                               ผู้ตัดสินฝ่าย Composition, Score A1: Technical Value (T.V.) o: ถึงสูงสุด 10 คะแนน (โดยรวมทั้งหมด)
                                               ผู้ตัดสินฝ่าย Composition, Score A2:  Artistic Value (A.V.) :0 ถึงสูงสุด 10 คะแนน (ในแต่ละส่วนแล้วนำมารวมกัน)

                                                ผู้ตัดสินฝ่าย Execution, Score B : 0 ถึงสูงสุด 10 คะแนน (ผู้ตัดสินจะให้เฉพาะคะแนนที่ถูกตัดออก)

           การคำนวณคะแนน>>คะแนนสุดท้ายจะประกอบด้วยคะแนน 3 ส่วน T.V + A.V. + Execution

-          การคิดคะแนนฝ่ายเทคนิค (Technical Value) ผู้ตัดสินฝ่าย Technical Value
ผู้ตัดสินฝ่าย Technical Value จะให้คะแนนดังนี้
           ตรวจสอบความถูกต้องของการทำท่าความยาก ขีดฆ่าสำหรับความยากที่ไม่ให้ค่าเท่าและเพิ่มความยากที่นักกีฬาอาจแสดงได้

           เลือกท่าความยากที่มีคะแนนสูงที่สุด 10 เท่า ปรับคะแนนให้ตรงกัน และตัดคะแนนสำหรับท่าความยากที่ขาดไปในกลุ่มความต้องการเฉพาะอุปกรณ์

การประเมินท่าความยากที่นักกีฬาแสดง
ท่า A มีค่าคะแนน = 0.10 คะแนน
ท่า B มีคะแนน      = 0.20 คะแนน
ท่า C มีคะแนน      = 0.30 คะแนน
ท่า D มีคะแนน      = 0.40 คะแนน
ท่า E มีคะแนน       = 0.50 คะแนน

กลุ่มท่าการเคลื่อนไหวของนักกีฬา จะต้องประกอบด้วย

1. กลุ่มท่าพื้นฐาน (ความถูกต้องของท่าความยาก)
            - การก้าว และกระโดด (Jump and Leaps)
            - การทรงตัว (Balance)
            - การหมุนตัว (Pivots)
            - ความอ่อนตัว / การทำตัวเป็นคลื่น.(Flexibility / Waves)

2. กลุ่มท่าอื่นๆ (ให้เฉพาะการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่อง)
            - การเคลื่อนที่ (Traveling)
            - Skips and Hops
            - การเหวี่ยง / การทำวงกลม (Swing and Circle)
             - การเปลี่ยนทิศทาง (Tums)

การประเมินค่าทางศิลปะ (Artistic Value)
             การประเมินค่าทางศิลปะ (Artistic Value) มีคะแนนสูงสุด 10 คะแนน
โดยให้คะแนนดังต่อไปนี้  2.00 คะแนนสำหรับดนตรี และ 8.00 คะแนน สำหรับการออกแบบท่าชุด
 ผู้ตัดสินฝ่ายศิลปะ (Artistic Value) ดำเนินการตามรูปแบบดังต่อไปนี้

-          ปรับฐานคะแนนของดนตรี หลังจากตัดคะแนนที่เกิดจากการทำผิดพลาด ปรับฐานคะแนนสำหรับการออกแบบท่าชุดหลังจากที่มีการตัดคะแนนแล้ว ตรวจสอบความถูกต้องการแสดงของนักกีฬา พิจารณาคุณลักษณะพิเศษของการออกแบบท่าชุดที่แสดงไว้ในรายการ ขีดฆ่าท่าที่ไม่ถูกต้องออก เพิ่มคะแนนสำหรับค่าท่าที่เพิ่มขึ้นจากการแสดงของนักกีฬาที่เป็นไปตามรูปแบบ และคำนวณระดับของท่า
-          เพิ่มระดับคุณลักษณะพิเศษของการออกแบบท่าชุด คำนวณการแสดงถึงฐานคะแนนของการออกแบบท่าชุด
-          เพิ่มคะแนนของดนตรี ที่ส่วนของการออกแบบท่าชุด

ความสมบูรณ์ของการแสดง (Execution)
              ความผิดพลาดทาง Execution สามารถตัดคะแนนได้ตลอดเวลา และทุกท่าที่ผิดพลาด ยกเว้น ในกรณีที่มีการลงโทษโดยรวม

              ระดับความผิดพลาด ผู้ตัดสินจะตัดคะแนน
               0.5 หรือ 0.10 คะแนน ถือเป็นความผิดเล็กน้อย
               0.20 คะแนน ถือเป็นควาผิดปานกลาง
               0.30 คะแนน ถือเป็นความผิดมาก

เวลาและการสัมผัสอุปกรณ์
            การแข่งขันยิมนาสติก กำหนดให้แสดงท่าชุดทั้งหมดภายในเวลาไม่ต่ำกว่า 1.15 นาทีและไม่เกิน 1.30 นาที ในทุกๆอุปกรณ์ กรรมการจะทำการตัดคะแนนในทุกๆ วินาที ที่ขาดหรือเกิน จากเวลาที่กำหนดไว้

            การจับเวลา กรรมการจะเริ่มจับเวลาทันทีที่นักกีฬาเริ่มเคลื่อนไหว และหยุดการจับเวลาทันที ที่นักกีฬาหยุดการเคลื่อนไหวอย่างชัดเจน นักกีฬาสามารถจัดท่าทางเริ่มต้นได้เพียงอย่างเดียว
            การสัมผัสอุปกรณ์ ท่าเริ่มต้น นักกีฬาต้องสัมผัสอุปกรณ์ด้วยส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ในท่าเริ่มต้นของการแข่งขัน กรรมการจะตัดคะแนน หากร่างกายไม่สัมผัสอุปกรณ์ตามกำหนด

           การสัมผัสอุปกรณ์ขณะแข่งขัน หากเกิดความผิดพลาดในการรับหรือส่งหรือปะทะอันเป็นอุปกรณ์ หากไม่เป็นไปตามกำหนดจะถูกกรรมการตัดคะแนน

กติกาการแข่งขันยิมนาสติกลีลาใหม่ประกอบดนตรี



               เดิมใช้เป็นกิจกรรมเพื่อการฝึกบริหารร่างกาย โดยเน้นการใช้ทักษะยิมนาสติกผสมกับจังหวะของดนตรี และเพื่อให้สะท้อนลีลาที่สวยงามจึงเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ใหม่ คือ ลูกบอล ห่วง ไม้โยน ริบบิ้นยาว และเชือก เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นผสมกับความสวยงาม และได้รับการพัฒนาจนกลายเป็นกีฬาที่มีการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 2 หลักสำคัญของยิมนาสติกลีลาใหม่ประกอบดนตรี คือ การเน้นความสัมพันธ์ในการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพพร้อมอุปกรณ์ให้สอดคล้องกับดนตรีได้อย่างงดงามและมีศิลปะอ่อนช้อย
               อุปกรณ์ มีทั้งหมด 5 ชิ้น ได้แก่ ลูกบอล ริบบิ้น ห่วง ไม้โยน และเชือก อุปกรณ์ทั้ง 5 ชิ้นจะใช้สีใดก็ได้ ยกเว้น สีทอง เงิน และทองแดง จะใช้สีตัดกันหรือสีผสมกลมกลืนกันก็ได้แล้วแต่พอใจ
ดนตรี เป็นความสำคัญสุดยอดในการพัฒนาจังหวะและการเคลื่อนไหว การแสดงออกจึงต้องผสมกลมกลืนกับการเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับศิลปะบัลเล่ต์ เครื่องดนตรีที่ใช้ในการแข่งขันต้องเป็นเครื่องดนตรีที่บรรเลงชิ้นเดียว เช่น เปียโน ขลุ่ย และไวโอลิน
               การแข่งขัน ไม่จำกัดเพศและอายุ นักกีฬาต้องแข่งขันกันตามลำดับอุปกรณ์ คือ เชือก ห่วง ลูกบอล ไม้โยน และริบบิ้น ในการแข่งขันแต่ละครั้งนักกีฬาจะแสดงเพียง 4 อุปกรณ์เท่านั้น ซึ่งฝ่ายจัดการแข่งขันจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ประเภทการแข่งขัน มี 2 ประเภท คือ   ประเภทบุคคล และประเภททีม
-          ประเภทบุคคล
-          ประเภททีม
นักกีฬา/นักกีฬาสำรอง
-          1 คน / 1 คน
-          6 คน / 2 คน

เวลาที่ใช้ในการแข่งขัน
           -  1.00– 1.30 นาที
           -  2.30–3.00 นาที
ขนาดของฟลอร์
           -  12 x 12 เมตร
           -  12.5 x 12.5 เมตร

              เครื่องแต่งกาย ต้องเป็นชุดแนบเนื้อ หากไม่มีแขน ไหล่จะต้องกว้างอย่างน้อย 5 เซนติเมตร
การแข่งขันประเภทบุคคล คะแนนเต็ม 10 คะแนน แบ่งคะแนนเป็น 2 ส่วน
-          ส่วนที่ 1 มี 7 คะแนน เป็นคะแนนการเรียงลำดับท่า ซึ่งประกอบด้วยท่าของความยาก 5 คะแนน ความสัมพันธ์ระหว่างดนตรีและท่าทาง 1 คะแนน ท่าของเทคนิคในการประกอบชุด 0.5 คะแนน และความคิดริเริ่มในการแต่งท่า 0.5 คะแนน
-          ส่วนที่ 2 มี 3 คะแนน เป็นคะแนนท่าจบประกอบด้วยเทคนิคการทำให้สำเร็จ 1.5 คะแนน ผลสะท้อนโดยสรุป 1.5 คะแนน
           การแข่งขันประเภททีม คะแนนเต็ม 20 คะแนน แบ่งกรรมการออกเป็น 2 กลุ่มๆละ 10 คะแนนแล้วนำคะแนนของกรรมการทั้ง 2 กลุ่มมารวมกัน กรรมการกลุ่มที่ 1 ตัดสินจากการแข่งท่า 5 คะแนนและท่าของเทคนิคการแสดง 5 คะแนน กรรมการกลุ่มที่ 2 จะตัดสินจากการผสมกลมกลืนและเทคนิคการทำท่าให้สำเร็จ 10 คะแนน
            ท่าที่ใช้ในการแข่งขันทั้งประเภทบุคคลและทีม กำหนดให้มีท่าแข่งขันท่ายากอย่างน้อย 2 ท่า ท่าละ 1 คะแนน ท่าง่าย 6 ท่า ท่าละ 0.5 คะแนน การตัดสินความยากง่ายของท่าไม่กำหนดตายตัว เนื่องจากเทคนิคมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ก่อนการแข่งขันจึงมีการประชุมระหว่างกรรมการเพื่อตกลงกันเรื่องการให้คะแนน
กรรมการและเจ้าหน้าที่

            การแข่งขันประเภทบุคคล กรรมการหญิง 4 คน และมีหัวหน้ากรรมการ 1 คน รวมเป็น 5 คน และการแข่งขันประเภททีม กรรมการหญิง 8 คน และหัวหน้า 2 คน รวมเป็น 10 คน

สมาชิกกลุ่ม



1.นายชัยพัฒนา   จันทรพรหมเดช   ม.4/3   เลขที่ 10
2.นายธนชัย        ชัยเวชสกุล            ม.4/3   เลขที่ 13
3.นายธีร             สารกิจพันธ์           ม.4/3   เลขที่ 14
4.นายภาคิน        เหมกิ่งเพชร           ม.4/3   เลขที่ 17
5.นายภาสกร      คนธรัตน์กุล           ม.4/3   เลขที่ 18
6.นายริชธนา      พรสมบูรณ์ศิริ        ม.4/3   เลขที่ 20

บรรณานุกรม


- http://pawaritpawaritpp.blogspot.com/2014/06/blog-post.html
- https://sites.google.com/site/nganthawpi/withi-kar-len-yimnastik

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น